วงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ทว่าจะยกทีมฟุตบอลที่จัดอันดับว่ารวยที่สุดในเวลานี้ก็คงไม่พ้นสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ “เรือใบสีฟ้า” ทีมมหาเศรษฐีแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่มีคนตามเชียร์ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา
หลังจากที่ เป๊บ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าเป็นบททดสอบหลักที่เจ้าตัวจะต้องแสดงความสามารถในการคุมทีมที่ เพราะนอกจากการขับเคี่ยวเป้าหมายชิงแชมป์ของสโมสรดังในลีกแล้ว ทุกคนยังจับตาดูการวัดกึ๋นกันระหว่าง 5 สุดยอดกุนซืออย่าง อาร์แซน เวงเกอร์, เยอร์เก้น คล็อปป์, โชเซ มูรินโญ, เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ อันโตนิโอ คอนเต้ ว่าใครยอดกุนซือคนไหนที่จะพาทีมไปถึงฝั่งได้สำเร็จ อีกทั้งยังต้องรับแรงกดดันจากบรรดาแฟนบอล เรือใบสีฟ้า ที่ต่างก็คาดหวังไว้กับกุนซือรายนี้ไว้ค่อนข้างสูง เวทีพรีพรีเมียร์เมียร์ลีก ยังถือว่าโหดและหินกว่าลีกอื่นๆมาก ขนาดกุนซือระดับโลก หลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น สเวน โกรัน อีริคสัน , หลุยส์ ฟาน กัล , อังเดร วิลาส โบอาส รวมถึง อื่นๆอีกมาย ก็เคยเอาชื่อเสียงที่สั่งสมอยู่นาน มาทิ้งที่นี่แล้ว
ในฤดูกาล 2016-17 แม้ว่า แมนซิตี้ เปิดฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม ออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด แต่หลังจากนั้นผลงานของทีมกลับแผ่วลงซะดื้อ เอาชนะได้แค่เกมเดียวจาก 5 นัดต่อมา เป๊ป คือคนที่ต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเกมรับอันอ่อนยวบของทีม เมื่อนักเตะใหม่ที่เขาซื้อมาอย่าง เคลาดิโอ บราโว และ จอห์น สโตนส์ โชว์ฟอร์มน่าผิดหวังแถมยังเล่นผิดพลาดบ่อยครั้ง รวมถึงผู้เล่นในแนวรุก อย่าง กราเบรียล เฆซุส ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ดันมาบาดเจ็บต้องปิดเทอมยาวไปซะดื้อๆ
กวาร์ดิโอลา ยังพบกับความพ่ายแพ้ถึง 4 เกม จากโปรแกรม 19 นัดแรก นับเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดในการคุมทีมปีแรกของเขา ขณะที่เรือใบสีฟ้ารั้งอันดับ 3 ของตาราง แต่ตามหลัง เชลซี จ่าฝูงถึง 10 คะแนน แม้บางคนอาจมองว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก เพราะนี่คือฤดูกาลแรกของเขากับพรีเมียร์ลีก แต่การจบฤดูกาลด้วยมือเปล่า ไร้ถ้วยติดมือ และหากดูจากทรัพยากรในทีม, เงินทุนที่ใช้เสริมตัวผู้เล่น รวมถึงระดับมันสมองของเขา เราต้องยอมรับว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา ทำผลงานได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
นี่คือเรื่องที่เขาต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วนในฤดูกาลหน้า หากยังหวังประสบความสำเร็จในเวทีพรีเมียร์ลีก
นักวิจารณ์บอลต่างพากันพูดถึงเรื่องระบบของทีม เป๊บ ดึงเอาระบบที่ตนคิดค้นขึ้น และเป็นหนึ่งในแผนยอดฮิตของยุคนี้ นั่นคือ ติ๊กกี้ ตั๊กก้า” ที่เพรซซิ่ง บีบเกมกดดันคู่แข่งเก่ง เน้นการต่อบอลที่แม่นยำ และมีจังหวะเข้าทำที่รวดเร็ว เหมือนกับที่เคยทำกับ บาซ่า และ บาร์เยิ
แต่ครั้งนี้กับแมนซิตี้ ดูจะไม่เหมาะไม่ควร จนล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะด้วยศักยภาพขุมกำลังนักเตะแมนซิตี้ ชุดนี้ แม้จะอุดมไปด้วยนักเตะเกรด A แต่ก็ยังดูห่างชั้นเมื่อเทียบกับทีมเก่าๆ ที่ เป๊บ เคยคุม รวมถึงแมนซิตี้ ยังต้องพึ่งนักเตะตัวหลักของทีม อย่าง ยาย่า ตูเร่ , ดาวิด ซิลบา และกองหน้า อย่าง เซอร์คิโอ อกูเอวโร่ ที่สังขารเริ่มโรยราตามกาลเวลา ต่างกับทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่โดยรวมแล้วชื่อชั้นของนักเตะเป็นรองแมนซิตี้ อยู่มากแต่ “ติ๊กกี้ ตั๊กก้า” ของลิเวอร์พูล จะดูมีประสิทธิภาพ มากกว่า “ติ๊กกี้ ตั๊กก้า” ของแมนซิตี้ด้วยซ้ำไป
พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะบรรเลงเพลงแข้งในเร็ววันนี้ เราต้องจับตามอง ว่าแมนซิตี้ ภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า จะดำเนินต่อไปในทิศทางใด และจะเสริมนักเตะคนใดเข้าสู่ทีมเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ ให้แมนซิตี้ กลับสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ แฟนๆเรือใบสีฟ้าต้องให้กำลังใจ และคอยติดตามกันต่อไป